ตำรวจบุกรวบตัวนายทองหล่อ ทวีบุตร อายุ 40 หรือ ‘พระทองหล่อ’ พร้อมด้วยหลายชายคือนายอนนท์ ทวีบุตร อายุ 22 ปี วันนี้ (17 พ.ค.) หลังทั้งสองก่อเหตุขืนใจโดยนายทองหล่อข่มขืนยายวัย 78 ปี และนายอนนท์ข่มขืนเด็กหญิงอายุ 14 ปี นายทองหล่อถูกจับได้กลางไร่มันสำปะหลัง อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรีในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราโดยมีอาวุธ ส่วนนายอนนท์ถูกรวบตัวหน้าห้องเช่าในอ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี ในข้อหากระทำชำเราเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีและบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน
ทั้งนี้ นายทองหล่อได้ก่อเหตุเมื่อวันที่ 13 มี.ค. ที่ผ่านมาในจ.กระบี่
โดยหญิงชราวัย 78 ปีได้เข้าแจ้งความกับตำรวจว่าตนถูกพระลูกวัดใช้มีดจี้คอขณะกำลังเก็บผลไม้ข้างวัดควนใหม่ อ.คลองท่อม ก่อนจะถูกฉุดเข้าไปข่มขืนภายในกุฏิร้าง หลังจากนั้นคนร้ายก็หลบหนีไป เมื่อสืบสวนก็ทราบว่าเป็นนายทองหล่อ ซึ่งบวชพระจากที่อื่น แต่มาจำวัดที่จ.กระบี่ได้เพียง 10 วัน
โดยนายทองหล่อสารภาพว่าตนได้ดื่มสุราจนเมาและดูคลิปโป๊ในวัดก่อนจะก่อเหตุ รายงานระบุด้วยว่านายทองหล่อมีพฤติกรรมชอบดื่มสุราเอะอะโวยวาย แต่เพราะไม่มีเจ้าอาวาสในวัดจึงไม่มีใครคอยควบคุม หลังก่อเหตุนายทองหล่อได้หลบหนีไปจ.กาญจนบุรีและสึกออกมารับจ้างขุดมันสำปะหลัง
ขณะติดตามจับกุมนายทองหล่อก็ยังสามารถจับกุมนายอนนท์ หลานชาย ได้ด้วย เนื่องจากสืบทราบว่านายอนนท์ที่นายทองหล่อน่าจะหนีมาอยู่ด้วยนั้น มีหมายจับคดีข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปี โดยนายอนนท์ให้การว่าคบหากับผู้เสียหายมาก่อนและในวันเกิดเหตุพ่อแม่ของผู้หญิงไม่อยู่บ้านจึงใช้กำลังลากเด็กหญิงเข้าไปในห้องนอนและข่มขืนกระทำชำเรา นายอนนท์ได้หลบหนีไปทำงานที่โรงงานน้ำตาลในจ.สุพรรณบุรีก่อนจะถูกจับได้
หลังจากที่นายพินิจ งามพริ้ง ที่บรรดาคอฟุตบอลรู้จักกันดีในฐานะอดีตแกนนำกลุ่มเชียร์ ‘ไทยพาวเวอร์’ มีการเปิดตัวว่าจริงๆ แล้วเพศวิถีของตนคือสาวประเภทสอง พร้อมเปลี่ยนชื่อเป็น พาลินี งามพริ้ง หรือ พอลลีน ล่าสุดก็ได้ออกมาโพสต์เล่าถึงความรู้สึกของภรรยา และสถานการณ์ในครอบครัวผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัวต่อเรื่องดังกล่าว
โดยมีการระบุว่าภรรยาทุกวันนี้ได้เปลี่ยนสถานะเป็นเพื่อนกันที่ยังรักกันอยู่ แม้ว่าแรกๆ ที่รู้เรื่องภรรยาจะเสียใจมาก และพูดถึงขนาดว่า ให้เป็นคนเจ้าชู้ ขี้เหล้า ติดยาเสียยังจะดีกว่า
“ตลอดเวลาที่ฉันสับสน ต้องการเปลี่ยนจากชายเป็นหญิง คนที่เครียดที่สุดคือผู้หญิงคนนี้ ‘แม่น้องเพลง’ … เราเสียน้ำตากันเป็นปี๊บ เธอถามด้วยน้ำตานองหน้าว่า ทำไมต้องเป็นเธอด้วย… สามีกลายเป็นกะเทย… ให้เป็นคนเจ้าชู้ ขี้เหล้า ติดยาซะยังจะดีกว่า….”
อย่างไรก็ตามพอลลีนก็พยายามปรับความเข้าใจกับอดีตภรรยาว่าการเป็นหญิงข้ามเพศนั้นเป็นเรื่องที่เป็นมาโดยกำเนิดและไม่ได้ทำให้เป็นคนไม่ดี
“ฉันบอกเธอว่า มันไม่มีอะไรดีกว่าอะไรหรอก การเป็นผู้หญิงข้ามเพศ ไม่ใช่คนไม่ดี มันก็เหมือนเกิดเป็นนก เกิดเป็นปลา นั่นแหละ มันเกิดมาเป็น…”
นอกจากนี้ ยังระบุว่าทางอดีตภรรยากดดันเพราะญาติๆ และคนรอบข้างพูดจากันไปต่างๆ นานาในเรื่องนี้ ซึ่งตนก็พยายามปลอบใจให้ดีที่สุด และแม้ว่าในโลกโซเชียลจะมีการวิจารณ์ทำนองว่า ‘สงสารลูกเมีย’ แต่จริงๆ แล้วไม่มีใครรู้ว่าครอบครัวตนคุยกันบ่อยแค่ไหน และแม้ว่าการเปลี่ยนจากคนรักเป็นเพื่อนจะไม่ง่าย แต่ก็เป็นไปได้หากยังรักกันอยู่
แรงทะลุป้อม! เก๋งหลุดโค้งพุ่งชนป้อมตำรวจพังยับ โชคดีไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่ในป้อม
เจ้าหน้าที่งานจราจรตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ได้โพสต์รถเก๋งวิ่งด้วยความเร็ว ก่อนพุ่งชนป้อมตำรวจอย่างจังจนทะลุออกไปอีกทาง โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้ที่บริเวณถนนโชตนาขาออกเมือง ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เวลาประมาณตี 1 ของวันที่ 17 พ.ค. เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ป้อมตำรวจได้รับความเสียหาย ข้าวของกระจัดกระจาย โชคยังดีที่ขณะเกิดเหตุไม่มีเจ้าหน้าที่ประจำการอยู่ในป้อมดังกล่าว โดยคาดว่าคนขับน่าจะมีอาการเมาหรือหลับใน เพราะจากรูปการณ์ที่พุ่งชนป้อมตำรวจโดยไม่มีการชะลอความเร็วลงแต่อย่างใด
มักง่าย! เกาะล้านขยะท่วม หวั่นกระทบธรรมชาติและการท่องเที่ยว ภาพกองขยะขนาดใหญ่จำนวนมากริมชายหาดของเกาะล้าน จ.ชลบุรี ถูกเผยแพร่ในเพจ PattayaWatchdog เมื่อวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ชาวเน็ตเข้าไปวิพากษ์วิจารณ์ถึงความมักง่ายของพ่อค้าแม่ขายกันเป็นจำนวนมาก
โดยพบว่าร้านค้าหลายร้านที่ประกอบการอยู่บริเวณใกล้เคียงได้นำขยะจากร้านของตนเอง เช่น ขยะพลาสติก กล่อมโฟม ซากเก้าอี้พลาสติก มาทิ้งริมชายหาดทางเชื่อมระหว่างหาดตาแหวนกับหาดทองหลาง ซึ่งส่งผลต่อสิ่งแวดล้อม และบรรยากาศในการท่องเที่ยวอย่างมาก โดยทางเพจระบุว่าอยากให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้ามาจัดการและลงโทษผู้ประกอบการเหล่านี้
“ทิ้งขยะบริเวณชายทะเลเป็นการทำลายสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรชายหาดอย่างไม่น่าให้อภัย โดยเฉพาะเก้าอี้พลาสติก หากคลื่นซัดไหลลงทะเลก็จะกลายเป็นขยะพลาสติกที่ลงสู่มหาสมุทรได้” ทางเพจกล่าว ทั้งนี้ เกาะล้านมีพื้นที่ทั้งหมด 1,000 ไร่ อยู่ในพื้นที่ปกครองของอบจ.ชลบุรีที่มีหน้าที่จัดหาผลประโยชน์ในที่ดินหาดแสม จำนวน 320 ไร่ ส่วนพื้นที่ที่ไม่ได้จัดหาประโยชน์อื่นๆ จะอยู่ในความดูแลของกรมป่าไม้