สองตายาเก็บเห็ดซาบซึ้งใจ สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ บอกเข็ด ไม่กล้าเข้าป่าแล้ว

สองตายาเก็บเห็ดซาบซึ้งใจ สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ บอกเข็ด ไม่กล้าเข้าป่าแล้ว

หลังได้รับอภัยโทษออกจากคุกมาจากคดีบุกรุกเขตป่าสงวนแห่งชาติ สองตายายเก็บเห็ดนายอุดม ศิริสอน อายุ 57 ปี และนางแดง ศิริสอน อายุ 54 ปี ชาวอำเภอห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ เปิดใจถึงชีวิตหลังพ้นโทษ โดยนางแดงกล่าวว่า ตนยังชีพด้วยการรับจ้างทั่วไปภายในหมู่บ้าน เช่น ทำนา ทำไร่ เท่านั้น หากจะให้เข้าป่า เพื่อหาอาหารป่า คงจะไม่ไปอีกแล้ว เพราะรู้สึกเข็ดหลาบ หรือแม้แต่มีเพื่อนบ้านเก็บเห็ดจากป่ามาขายให้ จะไม่ซื้อกิน

ด้านสามีนั้นสุขภาพไม่ดี แขนขาอ่อนแรง ประสาทการได้ยินของหูข้างซ้ายตึง 

จึงทำได้แค่เพียงทำความสะอาด ซึ่งไม่เพียงพอที่จะยึดเป็นอาชีพหลักหารายได้เลี้ยงทั้งคู่ ช่วงที่อยู่ในเรือนจำ ทางเจ้าหน้าที่ได้ฝึกอาชีพเพียงการปักหมุดใส่หมวกเจ้าหน้าที่เท่านั้น นายอุดมผู้เป็นสามีเสริมว่าตนรู้สึกดีใจ ที่ได้รับการอภัยโทษ และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หากมีโอกาส จะสมัครเป็นจิตอาสา ทำความดีด้วยหัวใจ ทำงานเพื่อสังคม

อย่างไรก็ตาม ตนยังคิดไม่ออกว่าจะเริ่มต้นดำเนินชีวิตต่อไปอย่างไร แต่ยืนยันว่าไม่กล้าเข้าป่าอีกแล้ว และจะขอไม่เข้าไปในป่าตลอดชีวิต เพราะเข็ดหลาบแล้ว ขณะนี้ทั้งสองมีฐานะยากจน ไม่มีเงินติดตัวสักบาท ประกอบกับตนและภรรยา ยังรู้สึกเคว้งคว้าง ยังคิดอะไรไม่ออก อยากให้ส่วนราชการเข้ามาช่วยเหลือ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต และบรรเทาความเดือดร้อนด้านปัจจัยยังชีพ และหากเป็นไปได้อยากให้ทั้งสองได้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจน.

กระบะตัดหน้ารถไฟสังเวย 3 ศพที่สุราษฎร์ฯ เมื่อเช้าวันนี้ (18 พ.ค.) เกิดเหตุสลด รถกระบะขับตัดข้ามทางรถไฟขณะที่รถไฟขนสินค้ากำลังผ่านมา ทำให้รถถูกลากไป 50 เมตร และทำให้มีผู้เสียชีวิตทันทีสองรายคือ ด.ญ.อนัญลักษณ์ เหล่าอุบล อายุ 9 ปีที่กระเด็นออกนอกตัวรถ และนายกฤษฎากรณ์ เหล่าอุบล อายุ 45 ปีที่เสียชีวิตอยู่ภายในรถ ส่วนน.ส.ดวงพร ขาว อายุ 42 ปีที่ติดอยู่ภายในรถแม้ว่าจะได้รับการช่วยเหลือออกมาแต่ก็เสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมา

โดยบริเวณที่เกิดเหตุเป็นถนนคู่ขนานทางรถไฟในอ.เวียงสระ และเป็นจุดตัดรถไฟที่ไม่มีไม้กั้น มีเพียงสัญญาณไฟเตือน ขณะนั้นรถไฟขบวนที่ 778 ที่ขนสินค้ามาจากสถานีหาดใหญ่ จ.สงขลามุ่งหน้าทางกรุงเทพฯ กำลังแล่นมา ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า รถกระบะออกจากบ้านที่พรุกระแชงและใช้เส้นทางนี้เป็นประจำ โดยกำลังเดินทางไปตลาดบ้านส้อง ตอนเกิดเหตุรถกระบะขับตัดหน้าข้ามทางรถไฟไปอย่างกระชั้นชิดและรถไฟก็บีบแตรแต่คาดว่าคนขับจะไม่ได้ยิน

ธุรกิจไม่ลงตัว ผู้รับเหมายิงซีอีโอพร้อมเพื่อนบาดเจ็บ ซีอีโอบมจ.เวิลด์ คอร์เปอเรชั่น นายจิรศักดิ์ จิยะจันทน์ เจ้าของตึกแห่งหนึ่งในอ.สันทราย จ.เชียงใหม่พร้อมด้วยเพื่อนคือนายวรพงษ์ หรือตระกูล ถูกนายมาโนช แซ่ตั้ง อายุ 57 ผู้รับเหมาก่อสร้างยิงบาดเจ็บเช้าวันนี้ (18 พ.ค.) หลังเคลียร์เรื่องค่าใช้จ่ายไม่ลงตัว

โดยตำรวจสภ.แม่โจ้ ได้ควบคุมตัวนายมาโนชพร้อมของกลางคืออาวุธปืนสั้นยี่ห้อบาเร็ตต้า ขนาด .635 cal และปลอกกระสุนจำนวน 5 ปลอก โดยนายมาโนชบอกกับตำรวจว่าตนแค้นใจที่ผู้ว่าจ้างไม่ยอมจ่ายเงินให้เพียงไม่กี่หมื่นบาททำให้ตนขัดสนเรื่องเงินและลำบาก ทั้งๆ ที่ตนเขียนแบบให้และทำให้ทุกอย่าง

ก่อนเกิดเหตุนายจิรศักดิ์ได้เรียกนายมาโนชมาคุยเรื่องค่าใช้จ่ายแต่คุยกันไม่ลงตัว นายมาโนชเกิดความโมโหจึงชักปืนยิงนายจิรศักดิ์ ขณะนั้นนายวรพงษ์เข้ามาเห็นเหตุการณ์พอดีและพยายามช่วยเหลือนายจิรศักดิ์จึงโดนลูกหลงไปด้วย จากนั้นคนงานในบริเวณใกล้เคียงจึงเข้ามาช่วยกันจับตัวนายมาโนชไว้ ผู้บาดเจ็บทั้งสองรายถูกยิงเข้าที่บริเวณหน้าท้องและขณะนี้อยู่ในความดูแลของแพทย์รพ.เชียงใหม่กรุงเทพ โดยอาการปลอดภัยแล้ว

นศ.วิศวะฯถูกจับคดีเอี่ยวเผาโรงพักถลาง ปี 58 ยืนยันตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง

วันที่ 18 พ.ค. จากกรณีวันที่ 15 พ.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กองปราบนำกำลังจับกุม นายเสฎฐวุฒิ ตั้งจิตต์ อายุ 21 ปี ในข้อหา “ร่วมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้ายขู่เข็ญ, ร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์อันเป็นสาธารณะและทรัพย์สินของแผ่นดิน, และอีกหลายข้อหา สืบเนื่องจากเหตุการณ์เผาโรงพักถลางเมื่อปี 2558 นั้น คืบหน้าล่าสุด ผู้ใช้เฟซบุ๊ก น.นาย ฉึกฉึก หรือ นายเสฎฐวุฒิ ตั้งจิตต์ อายุ 21 ปี ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงต่อข้อหาที่ตนกำลังโดนดังกล่าวว่า

“กราบเรียนผู้ทรงคุณวุฒิ พี่ๆ เพื่อนๆและน้องๆครับ ตามที่สำนักข่าว รายงานข่าวว่าผม นาย เสฎฐวุฒิ ตั้งจิตต์ อายุ 21 ปี หลบหนีคดีก่อม๊อบเผาโรงพักถลางประท้วงตำรวจ(ตามรูปภาพ)

 ผมขอเรียนให้สังคนรับทราบว่า ผมไม่เคยได้รับหมายเรียกตัวว่ากระผมเป็นผู้ต้องหา กระผมไม่ได้หลบหนีคดีตามที่สำนักข่าวดังกล่าวรายงาน กระผมได้ใช้ชีวิตตามปกติ และขอเรียนให้ทราบว่าในวันเกิดเหตุ ทั้งเวลากลางวันและกลางคืนผมไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ผมขอรับประกัน ทั้งกล้องวงจรปิด และกล่องวงจรเปิด ไม่มีภาพกระผมอย่างแน่นอนด้วยความมั่นใจเกิน100 ไม่มีเหตุผลอะไรที่กระผมจะต้องหลบหนีคดี

ผมเป็นที่รู้จักของผู้คนในหมู่บ้านผมเป็นสมาชิกชมรม to be number one กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ทราบประวัติและความประพฤติของผมเป็นอย่างดี กระผมไม่เคยรับทราบมาก่อนเลยว่าตัวกระผมโดนคดีตามที่เป็นข่าวกระผมขอหยิบยกข้อเท็จจริงพอเป็นสังเขปว่าไม่มีเหตุผลอะไรที่ผมจะต้องหลบหนีตามที่สำนักข่าวข้างต้นเขียนข่าวขึ้นมา รายละเอียดดังนี้

credit : balkanwarez.org barhitessales.com beachaccesshawaii.org bedrockbaltimore.com blacklineascension.com blackliteraturemagazine.net bluesdvds.com brooklyntheologian.com careyrockland.com