แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทหารจากองทัพภาคที่ 4 ซึ่งมาร่วมปฏิบัติงานช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค และรวมถึงรับฟังสถานการณ์ปัญหาความเดือดร้อน
เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 25 เมษายน 2556 ที่ศูนย์อำนวยการร่วมจิตอาสาแก้ปัญหาน้ำกินน้ำใช้เทศบาลตำบลรัษฎา
บริเวณปากทางเข้าศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลรัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมคณะ ได้มาตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทหารจากองทัพภาคที่ 4 ซึ่งมาร่วมปฏิบัติงานช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค รวมถึงรับฟังสถานการณ์ปัญหาความเดือดร้อนและแนวทางการไขของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีนายภูดิท รักษาราษฎร์ นายกเทศมนตรีตำบลรัษฎา, นายประพันธ์ ขันธ์พระแสง ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ต, นายไกรสร มะหะหมัด ผู้จัดการการประปาส่วนภูมิภาค สาขาภูเก็ต และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ให้การต้อนรับ และบรรยายสรุปสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงแนวทางการช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน
ในโอกาสนี้ยังได้เดินทางไปยังจุดบริการน้ำให้กับพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการขาดแคลนน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค ภายในซอยกิ่งแก้ว ซอย 9 ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต ซึ่งมารอรับน้ำจากรถบริการน้ำของทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งได้มีการสอบถามถึงความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น และขอความร่วมมือในการให้ช่วยใช้น้ำอย่างประหยัด เพราะการช่วยเหลือนั้นเป็นเพียงการบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นที่เกิดขึ้นเท่านั้น
พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า ด้วยทางกองทัพภาคที่ 4 ได้รับการประสานจากทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตกรณีเกิดปัญหาภัยแล้งและขาดแคลนน้ำอย่างหนักในจังหวัดภูเก็ต จึงไดมีการจัดกำลังพลพร้อมรถบรรทุกน้ำมาร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ เช่น เทศบาลตำบลรัษฎา ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 18 ภูเก็ต เป็นต้น ในพื้นที่ เพื่อนำน้ำไปแจกจ่ายให้กับพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ทำให้จนถึงขณะนี้มีรถบรรทุกน้ำของหน่วยงานต่างๆ จำนวน 23 คัน โดยเฉพาะตำบลรัษฎา ซึ่งอยู่ปลายท่อส่งน้ำของประปาส่วนภูมิภาค ซึ่งการปฏิบัติงานดังกล่าว เป็นการบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น แต่หากประชาชนยังได้รับความเดือดร้อนก็พร้อมที่จะส่งกำลังพลมาช่วยเสริม ขณะเดียวกันก็จะต้องมีการตรึงกำลังบางส่วนเพื่อไปช่วยเหลือในพื้นที่อื่นๆ ที่ประสบกับปัญหาภัยแล้วด้วย และขอฝากพี่น้องประชาชนในการใช้น้ำอย่างประหยัด
คุมตัว “ตั้ม ไส้แตก” ฆ่า “น้องเอ๋ย” ไปขอนแก่น อึ้งเคยปาดคอชิงทรัพย์แท็กซี่เมื่ออายุ 19 วันที่ 26 เม.ย. จากกรณี นายธงชัย กลางเมือง หรือ “ตั้ม ไส้แตก” อายุ 30 ปี ร่วมมือกับ น.ส.ธรรมภัสสร พุทธรักษา อายุ 26 ปี ฆ่า “น้องเอ๋ย” แล้วทิ้งศพอำพรางริมห้วยพระคือ ต.พระลับ อ.เมืองขอนแก่น กระทั่งมีผู้พบศพเมื่อวันที่ 24 เม.ย. ที่ผ่านมา และต่อมาโดนหมายจับข้อหาข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ร่วมกันซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพเพื่อปิดบังการตาย หรือเหตุแห่งการตายนั้น
คืบหน้าล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร ภาค 4 ได้นำตัวนายธงชัย กลางเมือง หรือ “ตั้ม ไส้แตก” ไปยังจังหวัดขอนแก่นเพื่อดำเนินคดี และแถลงข่าวที่สภ.เมืองข่อนแก่นบ่ายวันนี้
ขณะที่ผู้เป็นแม่ของนายตั้ม ไส้แตกกล่าวว่า รู้สึกเสียใจที่ลูกชายฆ่าคนตาย ตอนอายุ 19 ปี ลูกเคยถูกจับคดีจี้ชิงทรัพย์คนขับรถแท็กซี่ที่กรุงเทพ ปาดคอคนขับแท็กซี่จนต้องเย็บ 7 เข็ม ลูกติดคุกอยู่หลายปี ต่อมาก็ถูกจับคดียาเสพติดอีก เพิ่งพ้นโทษ ก.พ. ที่ผ่านมานี้เอง
ชาวบ้านต.กะรน พบเหยี่ยวแดงบาดเจ็บ จนท.ศูนย์ศึกษาธรรมชาติฯช่วยเหลือ ก่อนปล่อยคืนธรรมชาติ
ชาวบ้านต.กะรน พบเหยี่ยวแดงบาดเจ็บ แจ้งจนท.ศูนย์ศึกษาธรรมชาติฯก่อนส่งสัตว์แพทย์ให้การช่วยเหลือ ล่าสุดอาการดีขึ้น รอพักฟื้นก่อนปล่อยคืนธรรมชาติ เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 25 เม.ย.62 นายพงศ์ชาติ เชื้อหอม หัวหน้าศูนย์ศึกษาธรรมชาติและ สัตว์ป่าเขาพระแทว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ได้เดินทางไปที่คลินิกอานนท์สัตวแพทย์ ตำบลศรีสุนทร อำเภอ ถลาง ภูเก็ต เพื่อติดตามอาการของเหยี่ยวแดง เต็มวัยที่ได้รับบาดเจ็บ หลังจากที่มีชาวบ้านพบและทำการช่วยเหลือได้ บริเวณพื้นที่หมู่ที่ 1 ต.กะรน อ.เมืองภูเก็ต เมื่อวันที่ 24 เม.ย.62 ที่ผ่านมา และได้ประสานมายังหัวหน้าศูนย์ศึกษาธรรมชาติและ สัตว์ป่าเขาพระแทว ก่อนนำมาส่งมอบให้สัตวแพทย์ช่วยทำการรักษาในวันนี้
โดยเบื้องต้นเหยี่ยวแดงตัวดังกล่าว มีบาดแผลคล้ายรอยถูกกัดบริเวณใต้ปีก ไม่สามารถบินเองได้ สัตวแพทย์ได้ทำการรักษาบาดแผล ให้ยาและกักตัวเพื่อดูแลอาการอย่างใกล้ชิด โดยขณะนี้พบว่าเริ่มมีอาการดีขึ้นแต่จะต้องทำการพักฟื้นและดูแลจนกว่าขนใต้ปีกจะขึ้นเต็ม ก่อนจะนำปล่อยคืนสู่ธรรมชาติต่อไป
สำหรับเหยี่ยวแดงเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2535 เป็นนกที่สามารถพบได้หลายพื้นที่ โดยจะพบได้ตามแถบชายฝั่งน้ำ, ที่ราบทุ่งนา, ป่าโปร่ง, ปากอ่าว, ชายฝั่งทะเล รวมถึงเกาะเล็ก ๆ ส่วนใหญ่ชอบอยู่ใกล้หมู่บ้าน โดยถือว่าเป็นดัชนีชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ของป่าชายเลนประการหนึ่ง ลักษณะพฤติกรรมของเหยี่ยวแดงชอบบินอยู่ตัวเดียวหรือ เป็นคู่หรือเป็นกลุ่มเล็ก ๆ เมื่อพบอาหารมันจะบินเป็นวงกลม พร้อมกับบินดิ่งควงลงมา โฉบอาหารนั้นขึ้นไปกินบนต้นไม้สูงซึ่งอยู่ใกล้ ๆ อาหารได้แก่ กบ เขียด งู นก แมลง หนู ลูกเป็ด ลูกไก่ สัตว์เลื้อยคลานเล็ก ๆ เหยี่ยวแดง ผสมพันธุ์ในช่วงฤดูหนาวต่อฤดูร้อน ทำรังตามกิ่งไม้ใกล้แหล่งน้ำ วางไข่ครั้งละ 2 – 4 ฟอง ไข่สีขาวไม่มีลวดลายใดๆ ทั้งสองเพศช่วยกันฟักไข่นาน 29 – 31 วัน